ต่อจากบทความที่แล้ว " ทบทวนความทรงจำ - ทำความรู้จัก ( เผื่อคุณจะรัก ) ศาลทหาร : ตอนที่ ๑ ภาพรวมศาลทหาร " วันนี้เรามาทบทวนความจำและ/หรือทำความรู้จักกับศาลทหารในเวลาไม่ปกติและศาลอาญาศึกกันครับ
๑. เมื่ออยู่ในเวลาไม่ปกติ
คือ มีการรบ ประกาศสงคราม หรือประกาศใช้กฎอัยการศึก ศาลทหารในเวลาปกติก็ยังสามารถทำหน้าที่ต่อไปได้เหมือนเดิม แต่ผู้มีอำนาจประกาศใช้กฎอัยการศึก
หรือผู้บัญชาการทหารสูงสุดมีอำนาจที่จะสั่งการให้ศาลทหารในเวลาปกติ เป็น “ ศาลทหารในเวลาไม่ปกติ ” ได้
๒.
ศาลทหารในเวลาไม่ปกติ
๒.๑ มีอำนาจพิจารณา
พิพากษาคดีเช่นเดียวกับศาลทหารในเวลาปกติ
และมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีตามคำสั่งของผู้มีอำนาจ เช่น คดีเกี่ยวกับความมั่นคง
คดีพิเศษอื่นๆ ที่ผู้มีอำนาจฯประกาศให้อยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลทหารในเวลาไม่ปกติ
๒.๒ ให้นำบทบัญญัติที่ใช้กับศาลทหารในเวลาปกติ
มาปรับใช้กับศาลทหารในเวลาไม่ปกติโดยอนุโลม ( พ.ร.บ.ศาลทหารฯ มาตรา
๓๘ )
๒.๓ ผู้มีอำนาจแต่งตั้งตุลาการศาลทหาร
สามารถแต่งตั้งผู้พิพากษาพลเรือนเป็นตุลาการในศาลทหาร
และสามารถแต่งตั้งพนักงานอัยการ จ่าศาลพลเรือน
ทำหน้าที่อัยการทหารและจ่าศาลทหารได้ ( พ.ร.บ.ศาลทหารฯ มาตรา
๓๗ ) เรียกว่าเป็นการให้ศาลพลเรือนทำหน้าที่ดังศาลทหาร
๒.๔
เมื่อหมดภาวะเวลาไม่ปกติแล้ว ถ้ามีคดีที่พิจารณาค้างอยู่ในศาลทหารในเวลาไม่ปกติ
ศาลฯก็สามารถพิจารณาพิพากษาคดีนั้นให้เสร็จสิ้นต่อไป
หรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งตุลาการทหารหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาจสั่งให้โอนคดีหรือส่งตัวผู้ต้องหาไปให้ศาลทหารแห่งอื่นได้
โดยศาลทหารที่รับโอนคดีหรือรับตัวผู้ต้องหานั้น
จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับศาลทหารในเวลาไม่ปกติ
๓.
ศาลอาญาศึก
๓.๑ จัดตั้งขึ้นสำหรับหน่วยทหาร
เรือรบ ซึ่งอยู่ในยุทธบริเวณ มีตุลาการศาลเป็นนายทหารสัญญาบัตร
๓ นาย ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยผู้บังคับบัญชาสูงสุด ณ ที่นั้น
ซึ่งมีกำลังทหารไม่ต่ำกว่า ๑ กองพัน หรือแต่งตั้งโดยผู้บัญชาการเรือ ป้อม
หรือที่มั่นอย่างใดๆในพื้นที่นั้น
๓.๒ ศาลอาญาศึก
มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาทั้งปวง ซึ่งกระทำผิดในเขตอำนาจ ( คือในพื้นที่ยุทธบริเวณที่จัดตั้งศาลอาญาศึกนั้น ) โดยไม่จำกัดบทกฎหมายและตัวบุคคล
๓.๓ เมื่อหมดภาวะเวลาไม่ปกติแล้ว
ถ้ามีคดีที่พิจารณาค้างอยู่ในศาลอาญาศึก
ศาลฯก็สามารถพิจารณาพิพากษาคดีนั้นให้เสร็จสิ้นต่อไม่
หรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งตุลาการทหารหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาจสั่งให้โอนคดีหรือส่งตัวผู้ต้องหาไปให้ศาลทหารแห่งอื่นได้
โดยศาลทหารที่รับโอนคดีหรือรับตัวผู้ต้องหานั้น
จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับศาลอาญาศึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น